ENVI 11

">

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

คติสอนใจ จากไม้ขีดไฟ เพียงอันเดียว

ชีวิตคนเราอาจเปรียบได้กับไม้ขีดไฟ

ก้านไม้ขีด..ก็เหมือนกันเวลาชีวิตของเรา

เวลาชีวิตของเรา..หากมองจริงๆ ก็แสนจะสั้นเหลือเกิน เมื่อเรามีบางสิ่งบางอย่างทำ

บางคน..อาจมองว่าชีวิตของเรา ทำไมมันช่างแสนจะยาวนานนัก

เพราะนั่น..คือการที่เรายังไม่ได้จุดไม้ขีดไฟ

เมื่อเกิดการเสียดสีกับกล่องไม้ขีด ไฟก็จะลุกโชน

ในช่วงเวลาที่เราเริ่มจุดไม้ขีดนั้น

ไม้ขีดบางอัน ก็อาจจะลุกติดในทันที แต่บางอัน ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะติด

ไฟ..ก็เปรียบเสมือนงาน หรือจุดมุ่งหมายของเรา

บางคน...กว่าจะค้นหาเป้าหมายของตัวเองเจอ ก็ช่างนานแสนนาน

และเมื่อจะเริ่มทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ..หัวไม้ขีดก็เก่าเสียแล้ว

จะจุดไม้ขีดก็ต้องยากเป็นธรรมดา

เมื่อไฟลุกติด..เมื่อเราเริ่มทำความฝันให้เป็นความจริง

ไฟก็จะมอดก้านไม้ขีด..เวลาแห่งชีวิต เวลาแห่งอิสระก็เริ่มจะสั้นลงๆ

ขณะที่ไฟลามไปยังก้านไม้ขีด

บางอันอาจจะช้า บางอันอาจจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ

ตอนที่ไฟลุกอยู่...อาจจะมีลมแรงพัดผ่านเข้ามา อาจจะมีฝนตก ไฟก็อาจจะดับได้

เมื่อลุกมาถึงกลางก้านไม้ขีดแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไฟจะกลับมาลุกโชนอีกครั้งได้ง่ายๆ

ก็จำเป็นต้องพึ่งไม้ขีดอีกอัน พึ่งเพื่อนรักของเรา มาประคองไฟให้ลุกใหม่ได้อีกครั้ง

เมื่อจุดหมายของเราใกล้จะประสบความสำเร็จ ก้านไม้ขีดที่เหลือก็มีอยู่น้อยเต็มทีแล้ว

แต่เมื่อใดที่ไฟสุดท้ายของไม้ขีดดับมอดลง เมื่อวาระสุดท้ายของคนเรามาถึง

ก็จำเป็นที่จะต้องจากไป

แต่ประโยชน์ที่เราสร้างไว้ จุดหมายที่ประสบความสำเร็จ ไฟที่สร้างความสว่างไสวเอาไว้

แม้จะเป็นแค่เพียงไฟดวงเล็กๆ แต่ก็ได้สร้างประโยชน์เอาไว้ให้แก่คนรอบข้าง

และบางที

ก้านไม้ขีดไฟอันนี้…ก็อาจนำไปเพื่อจุดกองไฟกองโต

เพื่อความสว่างไสวและอบอุ่นของคนมากมาย..ตลอดคืน

ในทางกลับกัน..บางคนอาจกล่าวว่า

ถ้าเราไม่จุดไฟ..เราก็มีก้านไม้ขีดที่เหลืออีกมากมายเหลือเฟือ

แต่ถ้าหากเราปล่อยก้านไม้ขีดเอาไว้อย่างนั้น

นานวันเข้า..นานวันเข้า

ก้านไม้ขีดก็จะจุดติดยาก หรืออาจจะจุดไม่ติด

พอถึงวันนั้น..

คนที่จะใช้ไม้ขีดก็คงจะทำอะไรไปไม่ได้...นอกจากจะต้องทิ้งไม้ขีดไฟก้านนั้นทิ้งไป...



ขอขอบคุณ : ไม้ขีดไฟหลังบ้าน ที่ช่วยจุดประกายความคิดที่ก่อให้เกิดเป็นบทความนี้ขึ้นมา

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

เคล็ดลับหน้าใส


สูตรสาวหน้าใสน้ำผึ้งผสมมะนาว
ส่วนผสม มีแค่น้ำผึ้งกับน้ำมะนาว ใช้น้ำผึ้ง 1 ถ้วย กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้า นวดไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับครีมที่ผสมกรด AHA ส่วนน้ำผึ้งจะทำให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น
สูตรสาวหน้าใสด้วยแอปเปิ้ล
ใช้แอปเปิ้ล ปอกเปลือกแล้วคว้านเอาเฉพาะเนื้อ นำมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมา ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยขจัดเซลล์ ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสเปล่งปลั่ง อีกด้วย
สูตรกระชับรูขุมขน
ใช้กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศก็ได้ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งปอกเปลือก เอาเมล็ด ออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เติมน้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยวลงไป นำไปปั่นให้ละเอียด จนเป็นเนื้อ ครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้จะ ช่วยทำความสะอาดใบหน้า และกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
สูตรครีมทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser)
ใช้โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมะนาวสด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสม 3 ชนิดผสมให้เข้ากัน นำพอกให้ทั่วหน้าประมาณ 5 นาที ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออก ด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
สูตรสาวผิวแห้ง มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย
นำกล้วย 1 ผล ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บดให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง
สูตรพอกหน้าใสจากแตงกวา
ใช้แตงกวา 1 ผล ไข่ไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หั่นแตงกวาเป็น ชิ้นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาวและใส่น้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมา พอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าจะ ดูเนียนเรียบและชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

คติสอนใจ


1. ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจานอย่างจริงใจ


2. อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก “ปัญญา” และ “ความอุตสาหะ”

3. “เพื่อนใหม่” คือของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน “เพื่อนเก่า” “มิตร” คืออัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า

4. อ่านหนังสือธรรมะ ปีละเล่ม

5. ปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา

6. พูดคำว่า “ขอบคุณให้มาก”

7. รักษา “ความลับให้เป็น”

8. ประเมินคุณค่าของการให้ “อภัย” ให้สูง

9. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี

10. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิ และรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นจริง

11. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่

12. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนักคิดเสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว

13. อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟต์

14. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน

15. อย่าหยิ่ง หากจะกล่าวว่า “ขอโทษ”

16. อย่าอายหากจะบอกใครว่า “ไม่รู้”

17. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง

18. เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

19. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท

20. คนไม่รักเงิน คือไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต

21. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบคือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี

22. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยทำงานเลยสักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด

23. จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน

24. เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช้หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด

25. เหรียญเดียวมี 2 หน้า ความสำเร็จกับความล้มเหลว

26. อย่าตามใจตนเอง เรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้นล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น

27. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน

28. อย่าดึงต้นกล้าให้มันโตไว ๆ (อย่าใจร้อน)

29. ระลึกถึงความตายวันละครั้ง ชีวิตจะมีความสุข มีอภัย มีให้

30. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันเวลาแล้วเสร็จ

31. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด

32. ดาวและเดือนที่อยู่สูงอยากได้ก็ต้องปีน “บันไดสูง” ที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

33. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ

34. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม

35. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

เคล็ดไม่(ลับ)ด้วยผลไม้9อย่าง



1 ส้ม
ส้มซึ่งมีหลายชนิดและเลือกรับประทานได้ ผลที่มีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ส้มนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนไวตลอดเวลา



2 มะนาว
นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย



3 ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยซึ่งคอยบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือคอลลาเจนตัวเดียวกับที่ทำให้หน้าสาวๆอย่างเราเต่งตึงนี่แหละค่ะ นอกจากนี้น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง มีฤทธิ์แก้คออักเสบ เสียงแห้งด้วยค่ะ


4 กล้วย
กล้วยทุกชนิดนั้นดีต่อสุขภาพแต่แนะนำให้ทานกล้วยไข่ค่ะ ซึ่งกล้วยไข่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยอื่นๆเป็นพิเศษค่ะ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนั้นไม่เหี่ยวย่นไปตามวัยค่ะ


5 กีวี
กีวีซึ่งมีวิตามินอีมากสุดจากการวิจัยค่ะ และประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ



6 แครอต
แครอตนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงที่สุดในบรรดาผักสีส้มด้วยกันค่ะ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนสภาพเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดและรักษาโรคตาฟางได้อีกดวยค่ะ และนอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากควันบุหรี่และแสงแดดที่แรงจัดได้ค่ะ



7 อะโวคาโด
อะโวคาโด้นั้นเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยค่ะ เพราะวิตามินบีในอะโวคาโด จะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษได้ด้วยค่ะ และการกินอะโวคาโดวันละผลจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่ร่างกายต้องการเพียงพอในแต่ละวันค่ะ




8 มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนมากค่ะและสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มได้ค่ัะ มะเขือเทศนั้นมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูงค่ะ เพราะมะเขือเทศมีวิตามินพี ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดัน และมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิดและช่วยการช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย


9 ทุเรียน

ทุเรียนนั้นถึงแม้อาจจะอ้วนแต่ว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีความร้อน ทำให้แก้โรคผิวหนังหรือทำให้ฝี-หนอง แห้งและเนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิอีกด้วยค่ะ ส่วนเปลือกหนามทุเรียนนั้นนำมาสับแล้วแช่ในน้ำปูนใสสามารถใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูมได้ค่ะ และยังสามารถเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วยค่ะ ส่วนใบของทุเรียนนั้นสามารถใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิด้วยค่ะ สุดท้ายรากจากต้นทุเรียนนำไปตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์จริงเลยค่ะ(แต่บริโภคแต่พอดีนะคะ)

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า...รัก

สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียกมันว่าความรัก
แค่เพียงได้รักเท่านั้นคงไม่ยิ่งใหญ่
แต่โลกของฉันนั้นหมุนไปด้วยความรักเธอ เพราะเธอคือ…
สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียกเธอว่าความรัก
เก็บคำว่ารักไม่กล้าพอจะพูดไป
อยากให้เธอรู้
รักใช้เหตุและผลเป็นไง
หัวใจเป็นของเธอ
วันพรุ่ง นี้ขอเรียกเธอว่าความรัก